ความรู้เกี่ยวกับสุนัขเบื้องต้น
การจัดกลุ่มพันธ์สุนัข
1. Herding group

2. Toy group
เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก หรือเรียกกันว่าสุนัขตุ๊กตา บางพันธุ์น้ำหนักตัวแค่ 1.5 ปอนด์ ประโยชน์คือเลี้ยงเพื่อ เป็นเพื่อนเพราะมีความน่ารัก ช่างประจบออเซาะเจ้าของ สุนัขกลุ่มนี้ได้แก่ สุนัขพันธุ์ชิวาวาพันธุ์ปั๊ก พันธุ์ยอคเชียร์ เทอร์เรีย เป็นต้น
3. Hound group

4. Sporting group
สุนัขกลุ่มนี้ถูกคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อมีวัตถุประสงค์ใช้งานในการล่าสัตว์และเกมส์กีฬา เป็นสายพันธุ์ที่มีความว่องไวปราดเปรียว ชอบวิ่งบนพื้นดินหรือทุ่งหญ้า รวมทั้งลงว่ายน้ำในสระน้ำหรือบ่อบึงได้อย่างคล่องแคล่ว สุนัขกลุ่มนี้มีความฉลาดเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ชอบให้คนมาเอ็นดูลูบบริเวณลำตัว รวมถึงการได้รับรางวัล บางครั้งเห่าเก่งและรื้อทำลายข้าวของหากไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอเพื่อปลดปล่อยพลังงานอันเหลือเฟือ มีความอดทนสูงกับเด็กหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ภายในครอบครัว จึงเป็นสุนัขกลุ่มหนึ่งที่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เป็นสมาชิกในครอบครัว สุนัขกลุ่มนี้จะชอบการกัดแทะเบา ๆ เช่น การแทะมือเจ้าของหรือการกัดแทะของเล่นต่าง ๆ
5. Working group
สุนัขกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความรับผิดชอบต่องานหรือภารกิจที่ได้รับผิดชอบสูง เช่น การเฝ้ายาม การควบคุมฝูงปศุสัตว์ การเป็นสุนัขกู้ภัยหรือถูกฝึกให้เป็นสุนัขที่ใช้ช่วยในงานของตำรวจและทหาร เนื่องจากมีความแข็งแรงและความอดทนสูง ลักษณะเช่นนี้เป็นลักษณะที่ได้รับการถ่ายทอดมาแต่กำเนิด ซึ่งเกิดจากการคัดเลือกและผสมพันธุ์มาหลายชั่วรุ่นโดยนักเพาะพันธุ์สุนัขมืออาชีพ ได้แก่ สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ พันธุ์โดเบอร์แมน พันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นต้น
6. Terrier group
สุนัขกลุ่มนี้ได้แก่ สุนัขพันธุ์บูลเทอร์เรีย พันธุ์ฟอกซ์เทอร์เรีย พันธุ์แอร์เดลเทอร์เรีย เป็นต้น
7. Non - Sporting group

10.australian cattle
เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์เกี่ยวเนื่องกับ สุนัขดิงโก มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800
ลักษณะประจำพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ จะมีใบหูใหญ่ทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ช่วงลำคอหนา ตลอดทั้งลำตัว โดยเฉพาะส่วนหัว จะมีขนสีขาว ๆ
ขึ้นแซมประปราย หางยาวไม่ถึงข้อขา ลักษณะหางจะตกโค้งเล็กน้อย
9. rottweiler
โรมันนิยมใช้สุนัขพันธุ์ ROTTWEILER ช่วยต้อนฝูงสัตว์ และเป็นสุนัขเฝ้ายามใน เวลากลางคืน ชื่อ ROTTWEILER ได้มาจากชื่อ
เมือง ROTTWELL ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าสัตว์ในสมัยศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันนิยม นำสุนัขพันธุ์นี้มาใช้ในกิจกรรมของกรมตำรวจ
ทหาร ตลอดจนเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านด้วย..
8. papillon
MADAME POMPADOUR และ MARIE ANTOINETTE ในสมัยนั้น มีการค้าขายสุนัขพันธุ์ นี้กันอย่างกว้างขวางโดยมี SPAIN
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด ส่วนหูของ PAPILLON มีลักษณะ คล้ายผีเสื้อ
ลักษณะนิสัย เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาดอย่างน่าทึ่ง แข็งแรง กล้าหาญกว่าที่คิด รักเจ้าของ และพร้อมจะปกป้องเจ้าของ จากผู้บุกรุก
ชนิดยอมตายถวายชีวิตเลย ขี้เล่นและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งรอบข้าง เป็นมิตร สง่างาม ลักษณะการเดินหรือท่าทางน่ารัก
7. Labrador Retriever
พัฒนาความสามารถให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด และตรวจค้นยาเสพติด,วัตถุระเบิด สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในนิวฟาวนด์แลนด์
ประเทศแคนาดา กำเนิดในราว ค.ศ. 1800
สุนัขพันธุ์นี้จะรูปร่างเหมือนกับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สีขนจะเป็นสีเดียวกับทั่วทั้งลำตัว มีทั้งสีดำ ขาว น้ำตาลอ่อน และน้ำตาล
เข้ม ลักษณะขนสั้นเป็นสองชั้น ส่วนหัวกว้าง ขอบบนของเบ้าตาเป็นสันนูนขึ้นเล็กน้อย มีช่วงไหล่ที่กว้าง
6. shetland sheepdog
Yakkin สุนัขเกาะตัวเล็ก (ปัจจุบันไม่ได้รับการยอมรับต่อไป) โดยนำไปบนเรือของชาวประมง ใน ค.ศ.1700 สายพันธุ์ได้รับการพัฒนา
จนสมบูรณ์ เป็นเวลาร่วมศตวรรษที่สุนัขเล็กเหล่านี้ถูกให้ต้อนแกะและอารักขาฝูงแกะของ Shetland เกาะที่มีพายุแยกออกไปจาก
ชายฝั่งทะเลที่ซึ่งสัตว์จำนวนมากมายค่อนข้างเล็กน้อยด้านความสูง ความประณีตของการผสมได้มักเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ในศตวรรษที่
20 ภายหลัง Shetland ถูกส่งออกไป Scotland ซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ของประเทศอังกฤษและประเทศไกลโพ้น Sheltie ตัวเล็กเหล่านี้
เป็นสุนัขอ่อนโยนมากเมื่อต้อนปศุสัตว์ตัวเล็ก เป็นหนึ่งของสายพันธุ์ที่แข่งขันการเชื่อฟังได้ยอดเยี่ยม Sheltie เป็นสุนัขทำงานที่สง่างาม
และตั้งใจ พวกเขาได้รับการยอมรับครั้งแรกในประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1909 และจดทะเบียนครั้งแรกในอเมริกาใน ค.ศ.1911 เพราะ
นิสัยที่ใจดี ทุกวันนี้กลายเป็นหนึ่งของสุนัขที่เป็นเพื่อนซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด ความสามารถพิเศษของ Sheltie ได้แก่ การตามรอย
ต้อนสัตว์ เฝ้าบ้าน อารักขา ฉลาดเฉลียว แข่งขันการเชื่อฟังและเล่นกล
5. doberman pinscher
นี่คือสายพันธุ์ที่มีจุดกำเนิดเมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกพัฒนาใน ค.ศ.1860 พอสันนิษฐานได้ว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่า German
Pinschers กับ Rottweilers, Beauceron Pinschers} Greyhounds และ English Greyhound เพื่อสร้าง Doberman Pinscherที่ผอมและมีสติปัญญาสูง ผู้ให้กำเนิดของการผสมข้ามพันธุ์คือคนเก็บภาษีชาวเยอรมันชื่อ Louis Doberman ซึ่งได้เดินทางผ่านพื้น
ที่ที่มีโจรรังควาญบ่อยๆเลยตัดสินใจที่จะสร้างสุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขอารักขาซึ่งสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ซึ่งอาจเกิดขึ้น มีการ
อ้างอิงชื่อผู้ให้กำเนิดของเขา Doberman ได้รับการนำเสนอครั้งแรกที่สนามโชว์สุนัขใน ค.ศ.1876 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทันที
4. golden retriever
ใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ เนื่องจากมีสีขนสวยงามจึงทำให้ได้รับความนิยมมาก สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศ
อังกฤษ ว่ากันว่าพัฒนามาจากสุนัขในคณะละครสัตว์ของชาวรัสเซีย กำเนิดราว ค.ศ. 1800 แต่เดิมมีชื่อว่า สุนัขพันธุ์ขนเรียบทอง
จนในปี ค.ศ. 1900 ได้ถูกตั้งชื่อให้ว่า โกลเดนรีทรีฟเวอร์
ลักษณะประจำพันธุ์ สุนัขพันธุ์นี้จะมีลักษณะหัวกว้างและมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมา
ด้านข้าง มีขน2แบบคือ เรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง ขนบริเวณ
หางจะยาวและหนา
3. german shepherd
นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีความฉลาด สอนง่าย และกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่เดิมคนใช้สุนัขพันธุ์นี้ไว้ต้อนแกะ
แต่ปัจจุบันได้นำมาพัฒนาเพื่อใช้งานหลายด้าน เนื่องจากฉลาดในการรับรู้สิ่งต่างๆ เป็นสุนัขที่มีมีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศเยอรมัน
เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800
ลักษณะประจำพันธุ์ สุนัขพันธุ์นี้มีลำตัวค่อนข้างยาว มีช่วงปากที่ยาวเกินครึ่งของความยาวใบหน้า ลักษณะหูตั้ง ปลายหูเรียวเล็ก
บริเวณใบหน้า ลงมาถึงจมูก จะมีสีขนที่เข้ม ขาหลังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ลักษณะหางจะตกและมีขนหนา
2.poodle
ทั้ง 3 ชนิดเป็นสุนัขที่ร่าเริง ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ มีพลังงานเหลือล้น มีสเน่ห์ และต้องการเป็นที่พอใจของเจ้าของตลอดเวลาี่เมื่อ
เลี้ยงแล้ว เค้าจะมีความผูกพันธุ์สูงมากกับเจ้าของ เรียกได้ว่า รักถวายชีวิตทีเดียว ดังนั้น การเลี้ยงเค้าไม่ได้ตลอดไป หรือต้องให้
เค้าไปอยู่กับผู้อื่นเมื่อเค้าโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเค้ามาก และอาจนำพา มาสู่พฤติกรรมที่ผิดปกติได้
เค้าจะชอบที่จะทำงานมีส่วนร่วมกับเจ้าของ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่น Minature และ Toy Poodle จะเข้ากันกับคนแปลกหน้า
และเด็กได้ดีกว่า Standard Poodle แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะของการกัดคนแปลกหน้ามักพบใน Minature และ Toy ได้มากกว่า
1.border collie
ต้อนฝูงแกะไง... นั่นแหละบอร์เดอร์ คอลลี นอกจากนี้ บอร์เดอร์ คอลลี ยังถูกใช้เป็นสุนัขตามหา คนที่หลงทางในภูเขา และนำทาง
คนตาบอดอีกด้วย
ต้นกำเนิดของบอร์เดอร์ คอลลีมาจากสก็อตแลนด์ เช่นเดียวกับคอลลีพันธุ์อื่นๆ ความสามารถพิเศษของบอร์เดอร์ คอลลี คือ การ
ทำงานได้อย่างเงียบเชียบ นุ่มนวล มันมักจะคืบคลาน หัวและหางเรี่ยอยู่ระดับพื้นดิน ใช้สายตาจ้องมองฝูงสัตว์ พร้อมจะกระโจนไล่
ต้อนฝูงสัตว์ หากได้รับคำสั่งจากเจ้านาย จากลักษณะดังกล่าวนี้เอง จึงคาดกันว่า บอร์เดอร์ คอลลี น่าจะเกิดจากการผสม ข้ามพันธุ์
ระหว่างคอลลี กับเซตเตอร์ หรือพอยเตอร์ หรือสเปเนี่ยน สุนัขพันธุ์นี้ถูกใช้เป็นสุนัขต้อนฝูงแกะมานาน โดยเฉพาะบริเวณชายแดน
ระหว่างอังกฤษ กับสก็อตแลนด์ จนเป็นที่มาของชื่อ บอร์เดอร์ คอลลี แต่มาตรฐาน ของสุนัขพันธุ์นี้ เพิ่งเป็นที่ยอมรับของสมาคมผู้
เลี้ยงสุนัข แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1976
10สายพันธุ์สุนัขที่มีราคาแพลงที่สุด
1. ทิเบตทัน มาสติฟ "Tibetan mastiff" พวก
มันมีราคาสูงถึง 350,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
2. ร็อดไวเลอร์ "Rottweiler" พวกมันมีราคาดั้งแต่ $10000 - $15000
3.ยอรช์ เชียรเทอร์เรีย "Yorkshire terrier" มีราคาตั้งแต่ $4000 - $7000
4.ฟาโรว์ ฮาว์ด มีราคาตั้งแต่ $2000 to $3000
5. มอสทิฟ ราคาเริ่มต้น $1500 - $2500
6.สแตปฟอร์ดเชียร์ เทอร์เรีย
7.บอรด์เดอร์ คอล์รี่ ราคาอยู่ที่ $700 - $800
8. อคิตะ ไอนุ ราคาอยู่ที่ $500 - $800
9. โึคโมดอร์ ราคาเิริ่มต้นอยู่ที่ $400 - $500
10.ไบชอน ฟรีเชร์ ราคาอยู่ที่ $300 - $500
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น